Diptyque ถือกำเนิดในกรุงปารีสอันงดงามในช่วงต้นทศวรรษ 60 และกลายมาเป็นผู้ผลิตน้ำหอมพร้อมสร้างสรรค์กลิ่นหอมสำหรับพื้นที่อยู่อาศัย ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว และของตกแต่งที่เป็นเอกลักษณ์อย่างรวดเร็ว การผสมผสานระหว่างจินตนาการและความเป็นจริง ธรรมชาติและศิลปะ Diptyque เชิญคุณเข้าสู่จักรวาลที่มีกลิ่นหอมซึ่งเต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ที่ช่วยให้จินตนาการของคุณโบยบิน

น้ำหอม Diptyque Do Son Eau de Toilette เป็นเรื่องราวความทรงจำอันงดงามของ Yves Coueslant ซึ่งเป็นหนึ่งในสามผู้ก่อตั้งแบรนด์ เมื่อตอนเป็นเด็ก เขาใช้เวลาช่วงฤดูร้อนที่แสนวิเศษริมทะเล ในวัดที่คุณพ่อตนเองสร้างขึ้นใน Do Son ห่างไกลจากความร้อนอบอ้าวของเมือง Hai Phong บรรยากาศที่นี่เย็นสบายยิ่งขึ้น

ดอกลิลลี่ ดอกส้ม ดอกมะลิ กลิ่นทะเล

ลมทะเลส่งกลิ่นหอมหวานเย้ายวนของดอกลิลลี่ ทำให้พื้นที่นี้น่าหลงใหล Diptyque ตัดสินใจนำเสนอเรื่องราวนี้ในรูปแบบสมัยใหม่ผ่านหนังสือศิลปะที่มีรูปถ่ายและภาพวาดโดยศิลปินชาวอังกฤษ Tim Walker วัตถุเหล่านี้เปรียบเสมือนภาพวาดที่มีชีวิต ภาพแต่ละภาพได้รับการจินตนาการและกำหนดแนวคิดอย่างรอบคอบโดยนักออกแบบของเขา และในหนังสือเราจะเห็นภาพร่างที่จัดเตรียมอย่างสร้างสรรค์

Tam Dao EDT เปิดตัวในปี 2003 มีกลิ่นหญ้า - มัสค์ - ไม้ ซึ่งถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของความทรงจำของ Yves Coueslant ในช่วงฤดูร้อนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของเวียดนาม วันในฤดูร้อนพร้อมกลิ่นของไม้ป่าเป็นแรงบันดาลใจให้ Tam Dao EDT ถือกำเนิดขึ้น และนำกลิ่นของป่าไม้ในเวียดนาม

ไม้จันทน์ ไม้ซีดาร์ ต้นไซเปรส ต้นโทะ

ดอกกุหลาบ ต้นสนดินสอ และดอกโทะ สร้างสรรค์อย่างประณีตชวนให้นึกถึงความทรงจำในป่าที่เต็มไปด้วยดอกไม้มากมาย
พื้นที่อันกว้างใหญ่จากป่าไม้ถูกห่อหุ้มไว้บนผิวด้วยน้ำค้างยามเช้าอันหนาวเย็นบนยอดไม้จันทน์และต้นซีดาร์ มอบกลิ่นหอมจากธรรมชาติอันมหัศจรรย์
คมชัดและประณีตเป็นคำคุณศัพท์สองคำที่ให้นึกกถึงสิ่งที่เหลืออยู่บนผิวหนังระหว่างการเดินทางในป่า ความหลงใหลอันเร่าร้อนของอำพันและมัสค์ขาว มีกลิ่นหอมอันทรงพลังจากกลิ่นไม้ประดู่อย่างไม่มีเงื่อนไขและเริมเครื่องเทศให้กลิ่นหอมเข้มข้น 

แรงบันดาลใจจากความฝันตอนเที่ยง แม่น้ำอันเงียบสงบ การหลับใหลในฤดูร้อนใต้ต้นวิลโลว์ กุหลาบและแบล็คเคอร์แรนท์ผสมผสานกันสร้างกลิ่นหอมเย้ายวนชวนหลงใหล

กุหลาบ แบล็คเคอแรนท์บัด ใบแบล็คเคอแรนท์ มะกรูด

กุหลาบเป็นกลิ่นหลักของ L'Ombre Dans L'Eau เพราะความโดดเด่นของทั้งขวดและกลิ่นของดอกไม้ชนิดนี้ที่ถือว่าหรูหราและเซ็กซี่ที่สุด อย่างไรก็ตาม เพื่อแสดงออกถึงความเป็นศิลปะและเอกลักษณ์ของ L'Ombre Dans L'Eau ได้อย่างเต็มที่ เราอาจต้องใส่ใจกับกลิ่นที่หลงเหลืออยู่ของกลิ่นนี้มากขึ้น ซึ่งก็คือ กลิ่นใบแบล็คเคอร์แรนท์ (cassis) ใบไม้ประเภทนี้มีกลิ่นเฉพาะตัว แรงและเร่าร้อน ดังนั้นการควบคุมกลิ่นนี้จึงเป็นเรื่องน่ายินดี นอกจากนั้นยังเป็นความท้าทายที่ยิ่งใหญ่สำหรับผู้ผลิตน้ำหอมอีกด้วย ไม่ทราบว่าต้องใช้ความพยายามมากเพียงใดและได้ทดลองไปกี่ตัวอย่าง แต่การทำให้กลิ่นนี้หรูหราสง่างามเหมือนกับสไตล์ Diptyque และนำมาใส่ใน L'Ombre Dans L'Eau กลิ่นนี้จะต้องเป็นผลงานศิลปะชิ้นเอกอย่างแน่นอน

Philosykos เป็นกลิ่นหอมที่เชิดชูความทรงจำของกรีซสีเขียว กลิ่นเขียวของ Philosykos ชวนให้นึกถึงในท็อปโน๊ต พร้อมด้วยกลิ่นหอมสดชื่นของใบมะเดื่อ และความหอมหวานของมะเดื่อชุมพร 
กลิ่นเพิ่มความหอมอ่อนๆ ของมะพร้าวเล็กน้อย หอมหวานราวกับถนนไปทะเลที่ทอดยาวไปตามต้นมะพร้าวที่ซ่อนอยู่หลังสายลม
ในที่สุด ไม่เร่งรีบจนเกินไป กลิ่นของไม้และซีดาร์เพิ่มความอบอุ่นราวกับพระอาทิตย์ตกและคลื่นที่ช่วยปลอบประโลมความรู้สึกครุ่นคิด

ใบมะเดื่อชุมพร ยางมะเดื่อชุมพร ไม้มะเดื่อชุมพร พริกไทยดำ

กลิ่นชวนฝันของ Diptyque ได้รับแรงบันดาลใจจากสถานที่มีชื่อเสียงที่ผู้สร้างเคยไปเยี่ยมชมมาโดยตลอด กลิ่น Philosykos ชวนให้นึกถึงทิวทัศน์ของภูเขา Pelion ในฤดูร้อนในประเทศกรีซ ลักษณะพิเศษของพื้นที่นี้คือบนถนนไปทะเลจะมีสวนผลไม้ฉ่ำที่เต็มไปด้วยแสงแดดสดใสที่จะพาคุณไปสู่สถานที่ที่เรียกว่าสวรรค์บนดิน